MARICHI / The Grandfather of all Beings

Marichyasana / Pose Dedicated to the Sage Marichi


อาสนะที่นักเรียนที่นักเรียนมักจะบอกว่า  บิดไม่ได้  บิดไม่ไหว  ตัวจะขาด  หายใจไม่ออก  
ถ้าครูมาช่วยบิดก็เหมือนเป็นการบิดผ้าจนแห้ง
แบ่งระดับความลำเค็ญในการหายใจและค้างอยู่ในท่าได้เป็น 4 variations
คือ A, B, C, D  ในท่านี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับกลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง  

แต่เนื่องจากจุดประสงค์ในการเขียนบทความนี้ 
ไม่ใช่การบอกเทคนิคการเข้าท่าให้การให้กำลังใจใดๆสำหรับการฝึกด้วยการอ่านเพียงอย่างเดียว 
ดังนั้นเราจะข้ามสาระในเรื่องการฝึกไป  จะเขียนตามอัธยาศัยของผู้เขียน
แค่อยากให้มานั่งอ่านกันเพลินๆว่าท่านี้ มีที่มาจากเรื่องเล่าอะไร 
ด้วยคอนเสปเดิม…เอาที่เรียบเรียงแล้วง่ายๆ  เห็นภาพ  ด้วยภาษาสบายๆ  และจะพยายามเขียนให้สั้น!


อาสนะนี้ ได้รับ inspiration มาจาก ฤาษีท่านนึงผู้มีนามว่า Marichi แปลว่า Ray of Light (แปลว่า  ลำแสง….ทั้งแสงเดือนและแสงตะวัน  ง่อออวว รู้สึกสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง)

ท่าน Marichi บางตำราก็ว่า่านมีพี่น้อง 10 คน / บางตำราก็ว่า 7 คน “SaptaRishi”(ขอข้ามการ research เรื่องลำดับพี่น้องของท่านออกไปก่อน  ไม่งั้นจะไม่จบง่าย)

ตัวท่านนั้น  Represent : Power, wisdom, cosmic, force of creation


พระบิดาของท่าน Marichi คือ Brahma ผู้สร้างสวรรค์และสรรพสิ่งบนโลก

หลายคนน่าจะจำได้  ภาพจากโพสต์ก่อนๆได้บ้าง  ที่ Brahma ผู้มี 4 หน้า  ออกมาจากสายสะดือของ Vishnu

Brahma (บ้านเราเรียกว่า ท่านพระพรหม) ซึ่งด้วยความผิดบางประการทำให้ท่านโดนต้องสาป  ตั้งแต่โดนตัดหัวไปจาก 5 จนมาเหลือ 4  และคำสาปที่จะไม่มีผู้ใดบูชา Brahma (ในอินเดียจะสังเกตได้ว่าไม่มีพิธีการบูชาหรือวัดสำหรับเทพองค์นี้  ต่างจากในไทย  บ้านเรามีบูชาท่านตรงแยกราชประสงค์)


บุตรของท่าน Marichi คือ Kashyapa(Prajapati)ผู้เป็นพ่อของ All born being (Lord of creatures)  


รวมรายชื่อหลาน(ปู่)Marichi ที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ 

:: พระอาทิตย์  ที่เคยเล่าไปว่าโดนหนุมานเด็กไล่อมเพราะเข้าใจว่าเป็นลูกมะม่วงน่ากิน 
และเป็นอาจารย์ของหนุมานเมื่อเติบโตขึ้น
(อ่านได้ที่ลิงค์นี้ : https://ashtangasamasthiti.com/who-salute-to-the-sun/ )

:: พระจันทร์ Chandra ตามตำนานว่าท่านหล่อเหลางดงามยิ่งนัก 
และที่เคยเล่าในโพสต์ก่อนนี้ว่าไปขำท่านพระพิฆเนศเลยโดนเขวี้ยงงาใส่จนดับไป
กลายเป็นตำนาน moon phase
(อ่านได้ที่ลิงค์นี้ : https://ashtangasamasthiti.com/lord-ganesha-the-moon/ )

:: ต้นตระกูลอสูรยักษ์ (Hiranyaksha และ Hiranyakashipu) อันนี้มีเวลาค่อยเอามาเล่าต่อ  การตายของท่าน Hiranyakashipu  สนุกมาก  เคยไปการแสดงที่โรงละคอนโจหลุยส์ ไว้ค่อยมาเล่าต่อ

:: God of sky and water น้ำ (น้ำทะเล น้ำฝน รวมหมด) ท่านเองก็ร่วมอวยพรตอนหนุมานโดนพระอินทร์ฟาดกรามหัก  ยานพาหนะของเทพแห่งน้ำไม่ใช่จระเข้  แต่เป็น Makara มกร (ครึ่งบนเป็นสัตว์บก  ครึ่งล่างเป็นสัตว์น้ำ  ใครชอบดูดวงบ่อยๆก็จะคุ้นเคยกับคำว่า  ราศีมังกร นั่นเอง)

:: Aditi (Sun goddess) เทพทั้ง12เดือน 

:: พระอินทร์ (Kings of the gods)  ผู้ที่ขี่ช้างเอราวัณ ( 5 งวง 10 งา ตัวสีขาว  เทียบตารางบิดรมารดาแล้ว  ท่านช้างเอราวัณยานพาหนะของพระอินท์ก็คือน้องชายต่างมารดาของพระอินทร์เองนั่นแหละ  พระอินทร์ฟาดสายฟ้าใส่หนุมาน  เคยไปเจ้าชู้กับเมียฤาษีอาคมแก่กล้าจนโดนสาปให้มีโยนี(อวัยวะเพศหญิง)รอบตัวจนเป็นที่อับอาย  (1,000 vaginas) ซึ่งตอนหลังได้รับความเห็นใจ  เลยได้รับการ modify ให้เป็นลูกตาแทน 

:: King of Naga(งูบินได้) 

:: คนแคระ

:: นางฟ้า


สรุปคร่าวๆเอาเป็นว่า  รายนามหลานๆของท่าน Marichi ช่างมีเรื่องราวไม่ธรรมดา
ที่สามารถหั่นเป็นตอนย่อยๆได้แบบผู้เขียนผู้อ่านอ่านกันจนตาแตกแน่นอน
เนื่องจากลูกชายท่านฤาษี(Kashyapa)  มีเมีย 13 คนและ
มีหลานให้ปู่อีกนับไปนับมา ประมาณ 26 คน/องค์/ตน/unit  (หาลักษณะนามมาระบุให้ยากเหลือเกิน) 
ที่เป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่งและเป็นทวดของเหล่ามนุษย์ (Great Grandfather of the Human race)


ส่วนวีรกรรมของท่าน Marichi ที่ได้รับการเล่าต่อๆกันมา 

เคยไปร่วมวันเกิดของ Arjuna (พระเอกใน Mahabharata) มือธนูที่แม่นที่สุด  ซึ่งบทสนทนาระหว่าง Arjuna และ Krisna ก่อให้เกิดเป็น Bhagavadgita ขมวดแบบกลมๆคร่าวมากๆ ก็คือ บทสนทนาระหว่าง Arjuna กับ Krishna ว่าด้วยเรื่องหน้าที่  ความดีชั่ว  สัจธรรม ซึ่งให้แง่คิดที่น่าสนใจและลึกซึ้ง  (ที่หยิบมาอ่านในแต่ละช่วงที่แตกต่างกันของชีวิต  ก็จะเก็บข้อคิดหรือซึมซับอะไรได้ในมิติที่หลากหลาย)

เคยไปเยี่ยมเยือนในวาระสุดท้ายของท้าวภีษมะ (Bhisma) ผู้ที่เป็นพระอาจารย์ของลูกศิษย์ทั้งฝั่งธรรมะและอธรรม  ที่วาระสุดท้ายให้นึกภาพว่าในสนามรบนั้นท้าวภีษมะโดนธนูปักจนพรุนหลัง  พรุนขนาดที่เอามานอนเป็นเตียงธนูได้และยังมีชีวิตและสติสัมปชัญญะรับรู้ตลอดการทำสงคราม (หายใจสบายๆอยู่ได้อีกหลายวันยันสงครามจบ) ใน Mahabharata และสั่งเสียให้แง่คิดที่ดีมีประโยชน์ (ขมวดกลมๆก็ประมาณเรื่องของการครองเรือน ครองราชย์ที่ดี)


อีกเรื่องที่ฉีกออกไปเลย 

ท่านไปเก็บดอกไม้ในป่ากลับบ้านมาเหนื่อยมาก  ภริยาท่านผู้มีนามว่า Dharmavrata ก็กุลีกุจอออกมาล้างเท้าให้สามีที่กลับมาเหนื่อยๆ 

บังเอิญว่าพ่อสามี(ท่าน Brahma)แวะมาเยี่ยมเยือนเวลาเดียวกันเป๊ะ   ภริยาก็เป็นอันแยกร่างไม่ได้ว่าจะต้อง service ใครก่อน  คิดไปคิดมา อ่ะงั้นพ่อสามีก่อนละกัน 

แต่กลับกลายเป็นเลือกตัวเลือกผิดซวยไป  ท่าน Marichi โกรธมากสาปเมียให้กลายเป็นหิน  เอาจริงๆภริก็โคตรเซ็งและน้อยใจอย่างแรงว่าความผิดฉันรึไง คนนึงก็หลัว อีกคนก็พ่อหลัว 

นางก็เป็นหินที่สวดมนต์ไปจนกระทั่งท่าน Vishnu ผ่านมาเห็น  ท่านก็อยากช่วย  แต่เผอิญว่าท่านฤาษี Marichiนั้นมีฤทธิ์มาก  ที่สาปมาแล้วก็แก้ไขอะไรให้ไม่ได้  หินก็คือหิน

 งั้นอัพเกรดให้ว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ว่าใครก็อยากได้อยากบูชาก็แล้วกัน

:: ตอนอ่านเรื่องเล่าอันนี้ ก็คาใจมากว่าท่านพ่อของ Marichi จะมาเยี่ยมอะไรตอนนั้น  แล้วสะใภ้โดนสาปเป็นหินช่วยอะไรได้บ้างไหมพ่อตา

:: หิน  ภาวนาอย่างไร  และสุดท้ายที่อัพเกรดแล้วโอเคไหม

:: ท่าน Marichi สาปไปด้วยความโกรธ ณ ตอนนั้น  มีเยื่อใยให้เมียบ้างไหม

:: Dharmavrata  กับ Kala เป็นคนคนเดียวกันหรือไม่  เพราะเท่าที่หาข้อมูล  มีแต่บอกว่า Kala คือเป็นทั้งเมียและแม่ของ Kashyapa(Prajapati) ผู้เป็นบิดาของเหล่า being ทั้งปวง  แล้ว Dharmavrata ที่โดนสาปเป็นหินคือสรุปไม่มีบุตรด้วยกันแน่ๆใช่ไหม

:: สรุปแล้วท่าน Marichi มีเมียทั้งหมดกี่คน  ไม่สามารถทราบได้อย่างแน่ชัด (ใครรู้บอกด้วยนะ)


ตัดกลับมาที่ท่าน Marichi  เมื่อท่านตัดสินใจว่าจะลาโลกละสังขาร  ท่านก็กลายไปเป็นกลุ่มดาว (The Great Wagon Stars / Ursa Major)

:: ไทย  เรียก  ดาวจระเข้
:: ลาว เรียก ดาวหัวช้าง
:: ญี่ปุ่น เรียก ราชรถ
:: อังกฤษและอินเดีย เรียก ดาวคันไถ
:: จีน ยุโรป อเมริกา เรียก ดาวกระบวย
:: สเปน เรียก แตรล่าสัตว์
:: อียิปต์ เรียก ขาวัว
:: ชาวเอสกิโม เรียก เรือแคนู

แต่หากไปตามอ่านตามตำนานกรีกโบราณ  ก็จะหนังคนละม้วนกับทางบ้านของท่านฤาษี Marichi ไปเลย  จบจ้า…



เนื้อเรื่อง : ครูอันย่า / นายแบบกิตติมศักดิ์ : คุณเกด / ภาพประกอบเนื้อเรื่อง : pinterest